ในปัจจุบัน Smartphone ได้กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของใครหลาย ๆ คน จนทำให้มีคนนิยามว่า มันคืออวัยวะที่ 33 สำหรับคนในยุคดิจิทัล เพราะนอกจากจะมีไว้โทรหาเพื่อพูดคุย หรือโทรแบบ FaceTime แล้ว เราก็ยังใช้ในชีวิตในประจำวัน เช่น ตั้งปลุก จดบันทึก ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หรือกระทั่งทำธุรกรรมทางธนาคาร
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิต พร้อมกับอำนวยความสะดวกได้อย่างสูงสุด จน Smartphone ในทุกวันนี้กลายเป็นปัจจัย 5 ที่ขาดไม่ได้ บวกกับอัตราการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ทำให้ใคร หลาย ๆ คน มองหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียสมบัติชิ้นนี้ และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำประกันภัยคือตัวเลือกที่ดีที่สุด
หากพูดถึงการประกันหลัก ๆ แล้วสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ
โดยปกติแล้วเราจะได้ประกันแบบที่ 1 จะมีระยะเวลากำหนดไว้ และความคุ้มครองนั้นก็ครอบคลุมแค่เพียงความผิดปกติที่เกิดจากตัวเครื่องเท่านั้น ส่วนในแบบที่ 2 จะได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองจากแบรนด์ของ Smartphone ที่ซื้อ โดยกำหนดระยะเวลาในการคุ้มครองจะอยู่ที่ 1 ปี แต่ต้องเป็นกรณีที่เกิดความเสียหายจากตัวเครื่องเองไม่ใช่เกิดความเสียหายจากผู้ใช้งาน และแบบสุดท้าย คือประกันภัยโทรศัพท์มือถือ
ในทุกวันนี้ได้มีผู้ให้บริการด้านประกันภัยโทรศัพท์มือถือ เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้ผู้ที่หวงแหน Smartphone อย่างเราต้องมีประกันภัยเอาไว้ เพื่อป้องกันก่อนเกิดการสูญเสีย อันเกิดจาก อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน อย่าง โทรศัพท์หล่น จอแตก น้ำท่วม พายุ ไฟไหม้ โดนขโมย หรือสูญหาย
สำหรับการคุ้มครองของประกันโทรศัพท์หลาย ๆ บริษัทอาจจะมีความคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตามเราควรพิจารณาถึงประโยชน์ อ่านรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ในการทำประกันภัยทุกครั้ง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างคุ้มค่าตามประกันที่เราได้จ่ายออกไป รวมไปถึงการใช้ Smartphone อย่างระมัดระวัง เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดการสูญเสียอย่างแน่นอน
สําหรับใครที่อยากรู้เกี่ยวกับการประกันภัย หรืออยากรู้ในทันทีว่า เราถือกรมธรรม์อะไรอยู่บ้าง ก็สามารถแอดไลน์ เพื่อศึกษาข้อมูลประกันภัยเพิ่มเติมได้ที่ LINE @OICConnect หรือ คลิก
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิต พร้อมกับอำนวยความสะดวกได้อย่างสูงสุด จน Smartphone ในทุกวันนี้กลายเป็นปัจจัย 5 ที่ขาดไม่ได้ บวกกับอัตราการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ทำให้ใคร หลาย ๆ คน มองหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียสมบัติชิ้นนี้ และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำประกันภัยคือตัวเลือกที่ดีที่สุด
หากพูดถึงการประกันหลัก ๆ แล้วสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ
- ประกันจากร้านค้า
- ประกันตัวเครื่องจากศูนย์
- ประกันภัยแบบซื้อกรมธรรม์เอง
โดยปกติแล้วเราจะได้ประกันแบบที่ 1 จะมีระยะเวลากำหนดไว้ และความคุ้มครองนั้นก็ครอบคลุมแค่เพียงความผิดปกติที่เกิดจากตัวเครื่องเท่านั้น ส่วนในแบบที่ 2 จะได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองจากแบรนด์ของ Smartphone ที่ซื้อ โดยกำหนดระยะเวลาในการคุ้มครองจะอยู่ที่ 1 ปี แต่ต้องเป็นกรณีที่เกิดความเสียหายจากตัวเครื่องเองไม่ใช่เกิดความเสียหายจากผู้ใช้งาน และแบบสุดท้าย คือประกันภัยโทรศัพท์มือถือ
ในทุกวันนี้ได้มีผู้ให้บริการด้านประกันภัยโทรศัพท์มือถือ เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้ผู้ที่หวงแหน Smartphone อย่างเราต้องมีประกันภัยเอาไว้ เพื่อป้องกันก่อนเกิดการสูญเสีย อันเกิดจาก อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน อย่าง โทรศัพท์หล่น จอแตก น้ำท่วม พายุ ไฟไหม้ โดนขโมย หรือสูญหาย
สำหรับการคุ้มครองของประกันโทรศัพท์หลาย ๆ บริษัทอาจจะมีความคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตามเราควรพิจารณาถึงประโยชน์ อ่านรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ในการทำประกันภัยทุกครั้ง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างคุ้มค่าตามประกันที่เราได้จ่ายออกไป รวมไปถึงการใช้ Smartphone อย่างระมัดระวัง เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดการสูญเสียอย่างแน่นอน
สําหรับใครที่อยากรู้เกี่ยวกับการประกันภัย หรืออยากรู้ในทันทีว่า เราถือกรมธรรม์อะไรอยู่บ้าง ก็สามารถแอดไลน์ เพื่อศึกษาข้อมูลประกันภัยเพิ่มเติมได้ที่ LINE @OICConnect หรือ คลิก